สมัยหนึ่งพระบรมศาสดา เสด็จมาประทับ ณ โคนไม้สะเดา ที่ นเฬรุยักษ์
สิงสถิต เวรัญชพราหมณ์ ผู้ครองเมืองเวรัญชาทราบจึงมาเข้าเฝ้าเพื่อทูลถาม
เรื่องที่ได้ยินมาว่า
“พระพุทธองค์ไม่ไหว้ ไม่ลุกขึ้นต้อนรับพราหมณ์ผู้เฒ่า ไม่เชื้อเชิญให้นั่ง
บนอาสนะ ข้อนั้นตนเห็นว่าไม่สมควร”
พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า
“ดูก่อนพราหมณ์ ในโลกนี้หรือโลกอื่น เรายังไม่เล็งเห็นบุคคลที่เราควรไหว้
ควรลุกขึ้นต้อนรับ ควรเชื้อเชิญให้นั่งบนอาสนะด้วยเป็นผู้มีธรรม
เหนือกว่าตถาคต”
แล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรด เวรัญชพราหมณ์ได้เข้าถึงพระรัตนตรัยและ
ยึดถือเป็นสรณะไปตลอดชีวิต ปฏิญาณตนเป็นอุบาสก พร้อมทูลอาราธนาให้จำพรรษา
อยู่ในเมืองเวรัญชา
ที่มาจากพระไตรปิฎก อรรถกถาและคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
บทภาพยนตร์
เวรัญชพราหมณ์
เราคือเวรัญชพราหมณ์ เป็นพราหมณ์ผู้ครองเมืองเวรัญชาแห่งนี้
ได้ยินกิตติศัพท์ว่าท่าน เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงอยากจะมา
สนทนาธรรมด้วย … แต่เหตุใดเรามาถึงที่นี่แล้ว ท่านไม่ยอมไหว้เราผู้สูงอายุกว่า
หนำซ้ำยังไม่ลุกขึ้นต้อนรับ และไม่เชื้อเชิญให้เรานั่งบนอาสนะเท่าเทียมท่าน
พระพุทธเจ้า
ท่านเวรัญชพราหมณ์ ในโลกนี้หรือโลกอื่น เรายังไม่พบบุคคลที่เราควรไหว้
ควรลุกขึ้นต้อนรับ … ควรเชื้อเชิญให้นั่งบนอาสนะ ด้วยเป็นผู้มีธรรมเหนือกว่าเรา
เวรัญชพราหมณ์
เท่าที่ท่านประพฤติปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ เราเห็นว่าท่านเป็นผู้ไม่มีรส
พระพุทธเจ้า
ท่านพราหมณ์ … เราเป็นผู้ไม่มีรส เพราะรสในกามคุณ คือ รูป รส กลิ่น เสียง
และสิ่งที่มากระทบกาย เราได้ละแล้ว…แต่มิใช่ผู้ไม่มีรสอย่างที่ท่านเข้าใจ
เวรัญชพราหมณ์
ท่านเป็นผู้ไม่มีสมบัติ ท่านเป็นผู้กล่าวการไม่ทำ ท่านเป็นผู้ขาดสูญ
นอกจากนี้เรายังเห็นว่าท่านยังเป็นผู้มักเกลียดอีกด้วย
พระพุทธเจ้า
ท่านพราหมณ์ … เราเป็นผู้ไม่มีสมบัติ หรือโภคะ เพราะสิ่งนั้นคือ รูป รส กลิ่น
เสียง และสิ่งที่มากระทบกาย … ท่านพราหมณ์ … เราเป็นผู้กล่าวการไม่ทำ คือ
การไม่ทำบาป ไม่ทำชั่วทั้งกาย วาจา และใจ .. เราเป็นผู้กล่าวถึงความขาดสูญ
แห่งราคะ โทสะ และโมหะ…ท่านพราหมณ์ … เราเป็นผู้มักเกลียด กายทุจริต วจีทุจริต
มโนทุจริต…เราเกลียดบาปอกุศลทั้งปวง…แต่มิใช่ผู้มักเกลียดอย่างที่ท่านเข้าใจ
เวรัญชพราหมณ์
งั้นท่านก็เป็นผู้กำจัด เป็นผู้เผาผลาญ หนำซ้ำท่านยังเป็นผู้ไม่ผุดไม่เกิด
พระพุทธเจ้า
ท่านพราหมณ์ …เราเป็นผู้แสดงธรรมเพื่อกำจัดราคะ โทสะ โมหะ
และกำจัดบาปอกุศลทั้งมวล … เราเป็นผู้เผาผลาญกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
ด้วยเป็นสิ่งที่ ควรเผาผลาญ … เราเป็นผู้ไม่ผุดไม่เกิด เพราะได้ละ ได้ทำให้ไม่มี
อีกต่อไป เหล่านี้คือความหมายที่แท้จริง ไม่ใช่ความหมายอย่างที่ท่านเข้าใจ
….ดูก่อนท่านเวรัญชพราหมณ์ ท่านจงสดับธรรมเทศนาจากเราเถิด …
พระพุทธเจ้า
การส่งจิตออกไปภายนอก เพ่งโทษผู้อื่นนั้นคือเหตุ และมีทุกข์เป็นผล …
การพิจารณาตนเอง คือ จิตดูจิตของตน เป็นมรรค มีนิโรธ คือการดับทุกข์เป็นผล
เวรัญชพราหมณ์
พระธรรมเทศนาที่ทรงแสดง ได้ชี้ทางสว่างให้แก่ข้าพระองค์ นับแต่นี้ไป
ข้าพระองค์ขอยึดถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ขอพระองค์ได้จำพรรษา
อยู่ในเมืองเวรัญชา เพื่อแสดงธรรมโปรดชาวเมืองของข้าพระองค์ด้วยเถิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น