วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เปิดฉากเริ่มเรื่อง


พระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี ๓๐ ทัศ มา ๔ อสงไขยแสนมหากัป
ด้วยประการดังนี้แล้ว ครั้นทิวงคตได้อุบัติไปบังเกิดเป็นสันดุสิตเทวราชเสวยทิพยสมบัติ
อยู่ในเทวโลกสวรรค์ชั้นดุสิต

เมื่อท้าวมหาพรหมในชั้นสุทธาวาสทั้ง ๕ ลงมาเที่ยวประกาศแก่ชาวโลก
อันเป็นเหตุแห่งพุทธโกลาหลแก่มวลมนุษย์ว่า



            นับตั้งแต่นี้ไปอีกแสนปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก
ความสงสัยสับสนนี้ดำรงอยู่ถึงหนึ่งแสนปีเต็ม  หาผู้ให้คำตอบมิได้ จวบจนกระทั่ง
บุพนิมิต ๕ ประการปรากฏขึ้นแก่สันดุสิตเทพบุตรแล้ว เหล่าเทวดา อินทร์ พรหม
ก็ทราบแน่ชัดว่า สันดุสิตเทพบุตร องค์นี้เอง คือองค์พระสัพพัญญูโพธิสัตว์



            จึงพากันกราบทูลอาราธนาสันดุสิตเทพบุตรให้จุติมาบังเกิดยังโลกมนุษย์
เพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงธรรมสั่งสอนเหล่าเวไนยสัตว์ในมนุษยโลก
กับทั้งเทวโลกให้ข้ามพ้นสังสารวัฏ ครั้นสันดุสิตเทพบุตรทรงพิจารณา
ปัญจมหาวิโลกนะ คือเหตุการณ์สำคัญที่พระโพธิสัตว์ทรงพิจารณา ตรวจดู
ก่อนจะทรงรับอาราธนา ๕ ประการ คือ


        ๑. กาล       คือ   อายุขัยของมนุษย์ จะต้องอยู่ระหว่าง ๑๐๐ ปี ถึง ๑ แสนปี
        ๒. ทีปะ       คือ   ทวีปที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติต้องเป็นชมพูทวีปเท่านั้น
        ๓. เทสะ      คือ   ประเทศ ที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติต้องเป็นมัธยมประเทศเท่านั้น
        ๔. กุละ       คือ   ตระกูล ที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติต้องเป็นขัตติยสกุล
                                 หรือพราหมณสกุลเท่านั้น
        ๕. มารดา   คือ   พระมารดาของพระพุทธเจ้าจะต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์
                                ได้บำเพ็ญบารมีมาตลอดแสนกัป

เมื่อทรงเห็นว่าอยู่ในสถานะอันสมควรจึงรับคำทูลเชิญ



ที่มาจากพระไตรปิฎก อรรถกถาและคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง





บทภาพยนตร์


บรรยาย
            “ท้าวมหาพรหมในชั้นสุทธาวาสทั้ง ๕ ได้ลงมาประกาศแก่ชาวโลกว่า
(เสียงก้อง) นับแต่นี้ไปอีกแสนปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
ผู้ที่ปรารถนาจะพบพระองค์ต้องรักษาศีล ๕ และเจริญเมตตาภาวนาเป็นนิตย์


บรรยาย
            มวลมนุษย์และเทวดาได้เกิดความสงสัยว่าผู้ใดจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าในโลกเป็นไปถึงหนึ่งแสนปี.....หาผู้ให้คำตอบไม่ได้      จนกระทั่ง
สัญญาณบอกเหตุเกิดขึ้น...”

ดนตรีประกอบ
(แสดงความตื่นเต้น-ยิ่งใหญ่)

บรรยาย
            บรรดาเทพยดาและพรหมทั้งหลายได้ประชุมไต่ถามกันว่า    ผู้ใดจะได้ตรัสรู้
เป็นพระพุทธเจ้า   ระหว่างนั้นเองต่างก็สังเกตเห็นปัญจบุพนิมิตรปรากฏแก่
สันดุสิตเทพบุตร
            ปัญจบุพนิมิตที่ปรากฏคือ ดอกไม้ทิพย์ที่ประดับกายเหี่ยวแห้ง       ทิพยภูษา
ที่สวมใส่มีสีเศร้าหมอง     เหงื่อไหลออกจากรักแร้มีผิวพรรณเศร้าหมองปรากฏ
และรู้สึกเบื่อหน่ายในเทวโลก


บรรยาย
            เมื่อเห็นดังนั้น เหล่าเทพยดาก็พากันเข้าไปอัญเชิญให้จุติจากดุสิตสวรรค์
ลงไปเกิดยังโลกมนุษย์
            สันดุสิตเทพบุตร ได้พิจารณาถึงปัญจมหาวิโลกนะอันได้แก่ กาลเวลา
คือ        สัตว์โลกต้องมีอายุไม่น้อยหรือมากเกินไป สมควรที่จะบรรลุธรรม
                ทวีป     ต้องเป็นชมพูทวีปเท่านั้น
            ประเทศ    ต้องเป็นมัชฌิมประเทศเท่านั้น
             ตระกูล     จะต้องเป็นสองตระกูลเท่านั้นคือตระกูลกษัตริย์หรือตระกูลพราหมณ์
และ        มารดา     ต้องเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์และมีบารมี
เมื่อพิจารณาเห็นว่ามีพร้อมมูลจึงรับคำเชิญ










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น