พระนางมหาปชาบดีมีพระทัยน้อมไปในบรรพชา จึงเสด็จไปเฝ้าพระบรมศาสดา
ยังนิโครธาราม ทูลขอบรรพชา พระบรมศาสดาไม่ทรงอนุญาต แม้พระน้านางจะทูล
วอนขอถึง ๓ ครั้ง ก็ไม่สมประสงค์ ทรงโทมนัส ทรงกันแสง เสด็จกลับพระราชนิเวศน์
พระนางมหาปชาบดีโคตมี ไม่ทรงท้อพระทัย พร้อมด้วยนางกษัตริย์ศากยราชวงศ์
เป็นอันมาก ซึ่งยินดีในการบรรพชาได้ปลงพระเกศานุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์พากัน
เสด็จออกจากพระนครกบิลพัสดุ์ ไปเมืองไพศาลีด้วยพระบาท ตั้งพระทัยขอประทาน
บรรพชา แต่พระบรมศาสดาไม่ทรงอนุญาต ด้วยทรงตรัสว่า “สตรีไม่ควรอุปสมบท”
ภายหลังพระอานนท์ทูลถามว่า “หากสตรีบวชแล้วสามารถปฏิบัติธรรม
ได้บรรลุอริยมรรค อริยผล โดยควรแก่อุปนิสัยหรือไม่” เมื่อพระศาสดา ตรัสว่า
“สามารถ” พระอานนท์ก็กราบทูลว่า “ถ้าเช่นนั้นขอได้ทรงประทานโอกาส
ให้พระน้านางได้ทรงอุปสมบทเถิด”
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงโปรดประทานบรรพชาอุปสมบทแก่ พระนาง
ปชาบดีโคตมี กับศากยขัตติยนารีด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยการรับครุธรรม ๘ ประการ
จากพระพุทธองค์ไปปฏิบัติ ต่อมาได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ได้รับการยกย่องจาก
พระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในด้านรัตตัญญู คือเป็นภิกษุณีที่มีพรรษามาก
โดยนิพพานเมื่ออายุ ๑๒๐ ปี
พระนางพิมพาพร้อมด้วยนางสนมกำนัลประมาณ ๕๐๐ คน ได้เสด็จออกบวช
เป็นภิกษุณีในสำนักของพระนางมหาปชาบดีโคตมี และเรียนพระกรรมฐานเจริญวิปัสสนา
ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล มีพระนามปรากฏว่า “พระภัททากัจจานาเถรี”
พระพุทธองค์ทรงยกย่องเป็นเอตทัคคะเลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลาย ผู้บรรลุ
อภิญญาใหญ่
ที่มาจากพระไตรปิฎก อรรถกถาและคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
บทภาพยนตร์
พระนางมหาปชาบดี
พวกเราได้เฝ้าทูลขอบวชกับพระพุทธองค์ถึง ๓ ครั้ง แต่ก็ไม่ทรงอนุญาต
พระนางมหาปชาบดี
พวกเราจะไม่ละความเพียร...เราจงพร้อมใจกันปลงเกศา...นุ่งผ้ากาสาวพัสตร์ ตามเสด็จพระพุทธองค์ต่อไป
พระอานนท์
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าสตรีได้บวชในพระพุทธศาสนาแล้ว จะบรรลุพระอรหันต์
ได้หรือไม่พระพุทธเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า
อานนท์ … สตรีถ้าได้บวชในพระพุทธศาสนาก็สามารถบรรลุพระอรหันต์
เหมือนบุรุษเพศทุกประการ
พระอานนท์
ถ้าเช่นนั้น ขอได้ทรงเมตตาโปรดประทานบรรพชา แก่พระน้านางมหาปชาบดี
ผู้เคยบำรุงเลี้ยงดู พระพุทธองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ให้สมปรารถนาด้วยเถิด
พระพุทธเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า
อานนท์ … ถ้าปชาบดี รับประพฤติในครุธรรม ๘ ประการได้ เราจะอนุญาต
พระอานนท์
ครุธรรม ๘ ประการคือ
ภิกษุณี แม้บวชได้ร้อยพรรษา ก็ต้องเคารพพระภิกษุ แม้บวชในวันนั้น
ภิกษุณีจะอยู่จำพรรษาในวัดที่ไม่มีพระภิกษุไม่ได้ (ค่อยๆ เฟดสียงลง)
พระนางปชาบดี
หม่อมฉันได้ถือปฏิบัติเคร่งครัดในครุธรรม ๘ ประการ ผ่านมา ๒ พรรษา
ขอพระพุทธองค์ทรงพิจารณาด้วยเถิดเจ้าค่ะ
พระพุทธเจ้า
เราอนุญาตให้บวชได้
บรรยาย
หลังจากภิกษุณีปชาบดีและเหล่าภิกษุณีศากยะ บวชแล้ว ก็ตั้งใจบำเพ็ญภาวนา
ไม่นานก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งสิ้น
พระนางพิมพา (เสียงก้องในความคิด)
บัดนี้พระเจ้ามหานามศากยราชได้ครอบครองราชสมบัติ กรุงกบิลพัสดุ์สืบต่อไป
อันธรรมดาราชสมบัตินี้ ย่อมไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน แม้แต่พระสวามีของเรา
ก็มิได้อาลัยเสด็จออกบวช … แม้เหล่าประยูรญาติ...ลูกของเรา...และพระนางปชาบดี
ก็พากันติดตามพระพุทธองค์ออกบวช เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็ควรสละสมบัติทั้งหลาย
แล้วออกบวชตามพระพุทธ-องค์จะประเสริฐกว่า …
บรรยาย
พระนางพิมพา พร้อมด้วยนางสนมกำนัลจำนวนมาก เดินทางไปยัง
พระเชตวันมหาวิหารในกรุงสาวัตถี …
บรรยาย
… หลังจากพระนางพิมพา ได้ถือครุธรรม ๘ ประการครบ ๒ พรรษา
และได้บวชเป็นพระภิกษุณีแล้ว …พระพิมพาภิกษุณีก็ตั้งใจบำเพ็ญเพียรภาวนาจนบรรลุ
เป็นพระอรหันต์ มีพระนามปรากฏว่า “ พระภัททากัจจานาเถรี ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น